knowledge how-to

Knowledge & How to

Earth Knowleadge (3)

Hope Spotter :

ไร่รื่นรมย์

ภายใน “ไร่รื่นรมย์” แห่งนี้มีการใช้พลังงานสะอาดทั้งในส่วนที่พัก ร้านอาหาร และแปลงเกษตร โดยมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ กำลังการผลิตกว่า 200 กิโลวัตต์โดยใช้แบตเตอรี่ในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้า และยังผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์และขยะอินทรีย์ในฟาร์ม โดยนำก๊าซที่ได้ไปปั่นไฟสำหรับใช้ในโรงผลิตปุ๋ยเองอีกด้วย

จึงกล่าวได้ว่าทุกผลิตผลและทุกผลิตภัณฑ์ของไร่รื่นรมย์ เกิดจากพลังงานสะอาด 100% อย่างแท้จริง

Earth Knowleadge (1)

Hope Spotter :

เชอรี่ เช็มอัปสร

วันนี้เราได้แวะไปกับเยี่ยมชุมชนเข้มแข็งที่บ้านโคกสะอาด จ. สกลนคร กับ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวอินทรีย์สายพันธ์ุพื้นบ้านหลากหลายสายพันธ์ุ โดยหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ก็คือแบรนด์ “สิริไท” ของ “คุณเชอรี่ เข็มอัปสร” นั่นเอง

นอกจากเป็นแหล่งปลูกข้าวอินทรีย์แล้ว ชุมชนแห่งนี้ยังมีจัดการวัตถุดิบเหลือทิ้งทางการเกษตรได้อย่างน่าสนใจ เช่น การทำปุ๋ยอินทรีย์ การทำถ่านไบโอชาร์ และการนำฟางไปผลิตเป็นวัสดุกันกระแทกแทนพลาสติก เป็นต้น ถือเป็นอีกทางเลือกในการจัดการกับของเหลือทิ้งจากภาคเกษตร ก็คือการนำไปใช้เป็น เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ไฟฟ้าพลังงานชีวมวล (Biomass) ได้อีกด้วย

Earth Knowleadge (2)

Hope Spotter :

เรือไฟฟ้าสุขสำราญ

การล่องเรือเที่ยวชมวิถีชีวิตริมสายน้ำย่านฝั่งธนในวันนี้ มีทางเลือกที่น่าชื่นชมยิ่งกว่าเก่า ด้วยเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จากไอเดียรักษ์โลกของ “ซัน-ศิระ ลีปิพัฒนวิทย์” ที่ผูกพันกับวิถีแห่งสายน้ำมาตั้งแต่เกิด ได้เห็นปัญหาที่เกิดจากการสัญจรทางน้ำมาเนิ่นนาน

จึงได้พยายามเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา ด้วยการปรับปรุงเรือแท็กซี่ที่เคยใช้น้ำมัน และปล่อยมลพิษลงไปในน้ำ และอากาศ หันมาใช้พลังงานสะอาด 100% โดยติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาเรือเพื่อนำไฟฟ้าที่ผลิตได้มาใช้ขับเคลื่อนเรือ แล้วตั้งชื่อไว้ว่า “เรือสุขสำราญ”

นอกจากเรือท่องเที่ยวลำนี้ จะพาเราไป “สุข” กับความสวยงามของวิถีดั้งเดิมริมสองฝั่งคลองแล้ว ก็ยังให้เราได้ “สำราญ” อย่างเป็นมิตรต่อโลก ไม่มีการทิ้งคราบน้ำมัน กลิ่นควันจากไอเสีย แถมยังลดเสียงรบกวนให้กับชุมชนริมคลองอีกด้วย เรียกได้ว่า “สุขสำราญ” สมชื่อจริง ๆ

Ocean Knowledge (2)

Hope Spotter :

Sunova

“The Board Factory”  โรงงานผลิตเซิร์ฟบอร์ดใน อ.เขาหลัก จ.พังงา ภายใต้แบรนด์ “Sunova” ที่พนักงานสามารถลุกออกจากโต๊ะทำงาน หิ้วกระดานเซิร์ฟออกไปพักเบรคในทะเลได้ ในวันที่มีคลื่นลมดี 

และคงเป็นเพราะทุกคนที่ทำงานที่นี่มีความผูกพันกับท้องทะเล บรรยากาศภายใน The Board Factory จึงเต็มไปด้วย “ความชิล” และมีแต่ “คนชิลๆ” อยู่ทุกมุม

ใครที่ได้มาเยือนโรงงานและร้านค้าของ The Board Factory ต้องรู้สึกว้าวสุดๆ กับโซนการผลิตซึ่งเปิดโล่งให้ได้ชมกันทุกขั้นตอนแบบไม่มีหวง ไม่มีกั๊ก 

ที่นี่ เราจึงจะได้เห็นการนำเศษไม้ เศษผ้า และวัสดุอื่นๆ เหลือใช้จากการผลิตเซิร์ฟบอร์ด  มา Upcycle อย่างสร้างสรรค์ ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่เป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้ภายในร้าน

และในอนาคตอันใกล้นี้ทางโรงงานยังวางแผนยกระดับความยั่งยืนของแบรนด์อีกขั้นด้วยการติดตั้ง Solar Cell บนหลังคาของโรงงาน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับวิกฤต Climate Change ด้วยพลังงานสะอาด

Ocean Knowledge (3)

Hope Spotter :

Souvenir From The Sea

กระเป๋า From Trash to Tote จากแบรนด์  Souvenirs from the Sea หนึ่งในตัวอย่างของการจัดการขยะได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์โดย “คุณ ณ วิยะดา โค้วศานติ” ศิลปินผู้ก่อตั้งแบรนด์

เริ่มต้นจากการมอง “ขยะทะเล” ให้มีคุณค่า ซึ่งขยะที่เราพบบนชายหาดจะมีคุณค่ามากที่สุดได้ก็ต่อเมื่อขยะเหล่านั้นถูกเก็บมาแล้วถูกนำไปจัดการอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็น การส่งต่อไปรีไซเคิล หรือนำมา Upcycle เป็นกระเป๋า Tote เก๋ ๆ ก็ยิ่งมีมูลค่าเพิ่ม

แบรนด์ SFTS เป็นที่สนใจอย่างมาในต่างประเทศ เพราะเป็นต้นแบบของการจัดการขยะ สู้ Climate Change ส่วนขยะที่รีไซเคิลไม่ได้จะถูกส่งต่อขยะเหล่านั้นเพื่อเป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้าแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ลดคาร์บอน ลดโลกร้อน แถมได้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอีกด้วย

การจัดการขยะรอบชายหาด นอกจากจะทำให้ทะเลสวยงามน่าเที่ยวแล้ว ยังช่วยให้ขยะเหล่านั้นไม่ถูกคลื่นซัดกลับลงไปสู่ท้องทะเล กลายเป็นมลพิษ ทำร้ายสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอีกด้วย

Ocean Knowledge (1)

Hope Spotter :

เรือพิทักษ์สมุทร

“เรือพิทักษ์สมุทร” ซึ่งประจำการอยู่ที่ ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติ ทางทะเลที่ 4 จ.ตราด โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกเรือลำนี้ในอีกชื่อว่า “ศูนย์ปฏิบัติการลอยน้ำ” ใช้สำหรับการปฏิบัติภารกิจการศึกษาวิจัย ดูแล และฟื้นฟูทรัพยากรใต้ทะเล

“เรือพิทักษ์สมุทร” ลำนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด 100% จากพลังงานแสงอาทิตย์และจากพลังงานลมโดยไม่ทิ้งคราบน้ำมัน ไม่มีเสียงรบกวนสัตว์ทะเล และยังเป็นเรือที่สามารถออกปฏิบัติการได้ยาวนาน ออกทะเลได้ครั้งละหลายวัน ตอบสนองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และนักวิทยาศาตร์ทางทะเลได้อย่างดีเยี่ยม

ทำให้การปฏิบัติงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลของศูนย์ฯ แห่งนี้ เป็นมิตรต่อท้องทะเล และต่อโลกอย่างแท้จริง

Sky Knowledge (2)

Hope Spotter :

Energy Response

BODA (ชื่อเดิม Energy Response หรือ ENRES) สตาร์ทอัพผู้ให้บริการระบบ IoT สำหรับอาคารสำนักงาน เพื่อตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในอาคาร และประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์  เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมการใช้พลังงานให้ยั่งยืน

แต่แม้อาคารไหน ออฟฟิศใด จะไม่ได้ใช้บริการระบบล้ำๆ ของ BODA ก็สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อช่วยลดการใช้ พลังงานไฟฟ้าภายในอาคารได้ หากทำตามนี้ได้ทุกวัน ช่วยกันทุกคน รับรองบิลค่าไฟลดลงแน่นอนครับ

Sky Knowledge (3)

Hope Spotter :

Biochar

ไผ่เป็นพืชที่ขึ้นชื่อว่าโตเร็ว และมีประโยชน์หลากหลายมาก อีกทั้งยังสามารถนำไปเป็น “เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด” เพื่อการผลิตไฟฟ้าได้ นอกจากนั้นยังสามารถนำไปผลิตเป็นถ่านไม้ไผ่ที่เป็นทั้งปุ๋ย ถ่านดูดซับความชื้น ฯลฯ ได้

“สร้างป่า สร้างอาชีพ สร้างสุข” คือแนวคิดในการทำธุรกิจของ “ดร.กิตติศักดิ์ โชติกิติพัฒน์” เจ้าของ “Bamboo Reform” ผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่ ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อดูดซับคาร์บอนในอากาศ สร้างอาชีพให้คนในชุมชน และการจัดการวัตถุดิบอย่างคุ้มค่า

Sky Knowledge (1)

Hope Spotter :

Silo@SSR

“กระดาษจากใบอ้อย” คือผลงานการคิดค้นโดยศูนย์วัสดุสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืน หรือ Silo@SSRU คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่ได้รับรางวัลเหรียญเงินจากการประกวด The 10th Macao International Innovation and Invention Expo เมื่อปี 2022

ซึ่งในขณะนี้นักออกแบบทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาวัสดุทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และ “กระดาษจากใบอ้อย” นับเป็นวัสดุทางเลือกที่ถูกพัฒนาขึ้น และได้นำไปผลิตเป็นสินค้าจริงแล้ว โดยมีแนวโน้มว่าในอนาคตอันใกล้ เราจะมีตัวเลือกสินค้าซึ่งผลิตจากวัสดุทางเลือกเหล่านี้กันมากขึ้นในราคาที่เป็นมิตรกับเรามากขึ้นด้วย

ปัจจุบันในประเทศไทย มีการนำฟางข้าว ซังข้าวโพด หรือชานอ้อย มาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า “ไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล” ซึ่งถือเป็นพลังงานสะอาดที่จะช่วยโลกต่อสู้กับปัญหา Climate Change ได้ ด้วยการนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงาน

พลังงานแสงอาทิตย์การปฏิวัติการผลิตพลังงานที่ยั่งยืน

ปฏิวัติการผลิตพลังงานที่ยั่งยืนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

ทำความรู้จักกับโซลาเซลล์ แหล่งพลังงานสะอาดที่จะนำมาซึ่งการผลิตพลังงานอย่างยั่งยืน
โซลาเซลล์ทำงานโดยการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “เอฟเฟกต์โฟโตโวลตาอิก” (Photovoltaic Effect) ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นอิเล็กตรอนในวัสดุเซลล์เมื่อได้รับแสงอาทิตย์วัสดุที่ใช้ในการสร้างโซลาร์เซลล์มักจะเป็นซิลิคอนซึ่งมีคุณสมบัติในการแปลงแสงเป็นไฟฟ้าได้ดี
ข้อดีของโซลาร์เซลล์คือความสามารถในการผลิตพลังงานอย่างยั่งยืนและต่อเนื่องโดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิลที่มีจำกัด นอกจากนี้การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาหรือพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างเพียงพอสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเพิ่มความเป็นอิสระทางพลังงานได้อีกด้วย
การพัฒนาเทคโนโลยีโซลาเซลล์มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ลดต้นทุนการผลิตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อรวมกับนวัตกรรมอื่นๆ เช่น ESS (Energy Storage System) ซึ่งเป็นระบบหรืออุปกรณ์ที่แปลงพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานรูปแบบอื่นเพื่อกักเก็บไว้ใช้ในเวลาอื่นเมื่อจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบก็จะแปลงพลังงานที่กักเก็บไว้กลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้งานได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ การใช้โซลาร์เซลล์สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นปัญหาวิกฤติของโลกในปัจจุบัน และเป็นการลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานที่มีการสร้างมลพิษอย่างถ่านหินและน้ำมัน
การปฏิวัติการผลิตพลังงานที่ยั่งยืนอย่างเทคโนโลยีการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์จึงเป็นการผลิตพลังงานที่ยั่งยืนโลกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุนพลังงานและเพิ่มความเป็นอิสระและความมั่นคงทางพลังงาน ทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ

เพียง 1.5 องศา”การเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อย ก็สามารถเปลี่ยนโลกได้

เพียง 1.5 องศา การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่สามารถเปลี่ยนโลกได้

เมื่ออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 องศา ทำให้เกิดความเสี่ยงจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น พายุที่มีความรุนแรง การเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง

การลดอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นช่วยปกป้องระบบนิเวศที่เปราะบาง เช่น แนวปะการังและป่าฝนเขตร้อน รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ที่มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ 

การบรรลุเป้าหมายนี้ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึงรัฐบาล องค์กรต่างๆ และพวกเราทุกคน โดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การใช้พลังงานสะอาด การแยกขยะ การประหยัดพลังงาน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำได้ง่ายๆในชีวิตประจำวันด้วยการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเพียง 1.5 องศาเซลเซียสแม้จะดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อย แต่มีความสำคัญที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการปกป้องโลกของเราและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นถัดไป การร่วมมือกันอย่างจริงจังในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องทำเพื่อให้โลกของเรายังคงเป็นที่บ้านที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับทุกชีวิตบนโลกใบนี้

โลกร้อน ภาวะวิกฤตที่เราต้องร่วมกันแก้ไข

โลกร้อน: ภาวะวิกฤตที่เราต้องร่วมกันแก้ไข

ปัญหาการกระทบของโลกร้อนได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากทั่วโลกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าอุณหภูมิโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกิจกรรมของมนุษย์เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาไหม้ฟอสซิล การตัดไม้ทำลายป่า และการขยายพื้นที่เกษตรกรรมอย่างไม่ยั่งยืน

การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง รวมถึงเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น พายุเฮอริเคนที่มีความรุนแรงมากขึ้น และความแห้งแล้งที่ยาวนาน

ปัญหานี้มีผลกระทบต่อแหล่งน้ำ การเกษตร และสุขภาพของมนุษย์ รวมถึงการส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตมนุษย์ในหลายด้าน

การเผชิญกับปัญหาโลกร้อนต้องการความร่วมมือจากทุกคนในสังคม เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมส่วนบุคคล เช่น การใช้พลังงานอย่างประหยัด, การลดใช้พลาสติก, การแยกขยะ, การใช้รถยนต์ไฟฟ้า, การสนับสนุนโครงการหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับอนาคตของเราและรุ่นถัดไป

ขับรถช้า ประหยัดน้ำมัน ผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

ขับรถช้า ประหยัดน้ำมัน ผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

รู้หรือไม่? การขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นสามารถช่วยลดการใช้น้ำมันได้ถึง 20% ซึ่งมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เมื่อเราคิดถึงปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง การขับรถที่ความเร็วนี้จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 1 ตัน ต่อรถยนต์แต่ละคันที่วิ่งระยะทางราว 30,000 กิโลเมตรต่อปี
นอกจากนี้ การดับเครื่องยนต์เมื่อหยุดรถเป็นอีกวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การทำเช่นนี้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนลงได้อย่างชัดเจนและเป็นวิธีที่สามารถทำได้ทุกคน เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมขับขี่เพียงเล็กน้อยเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของโลกโดยรวม อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อีกด้วย

พลังงานชีวมวล การใช้วัสดุเหลือทิ้งเพื่อผลิตพลังงาน

พลังงานชีวมวล : การใช้วัสดุเหลือทิ้งเพื่อผลิตพลังงาน

“พลังงานชีวมวล” เป็นการใช้วัสดุชีวภาพเพื่อนำไปผลิตพลังงาน เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดปริมาณขยะและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด กระบวนการการเปลี่ยนวัสดุชีวมวลให้เป็นพลังงานสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ ดังนี้ :
1. การเผาไหม้: วัสดุชีวมวลเช่น ฟางข้าว เศษไม้ และเปลือกข้าวโพด สามารถเผาไหม้เพื่อผลิตความร้อนและไฟฟ้า กระบวนการนี้ช่วยลดปริมาณขยะและสร้างพลังงานจากวัสดุที่มีอยู่แล้ว
2. การหมัก: วัสดุชีวมวลที่เป็นอินทรีย์ เช่น ขยะอาหาร และของเสียจากเกษตรกรรม สามารถหมักเพื่อผลิตแก๊สชีวภาพ (Biogas) ซึ่งประกอบด้วยมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์
3. การเปลี่ยนเป็นของแข็ง: วัสดุชีวมวลบางชนิดสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานในรูปแบบของเชื้อเพลิงแข็ง เช่น เปลือกไม้ที่ผ่านกระบวนการเปลี่ยนเป็นแท่งไม้เชื้อเพลิง
4. การแปรรูปเป็นของเหลว: วัสดุชีวมวลบางชนิดสามารถแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuels) เช่น เอทานอล และดีเซลชีวภาพ ซึ่งสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะและเครื่องจักรต่างๆ ได้

การใช้พลังงานชีวมวลมีข้อดีหลายประการ ทั้งการลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิลที่ทำให้เกิดการสร้างมลพิษและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก วัสดุชีวมวลที่ใช้ในการผลิตพลังงานมักเป็นวัสดุที่มีอยู่แล้วหรือวัสดุที่สามารถสร้างใหม่ได้ ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะและส่งเสริมการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์มหาศาล!

เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์มหาศาล!

ปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นความท้าทายที่เราต้องเผชิญ การทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อาจมีผลกระทบที่ใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อมของเรา  ซึ่งเราทุกคนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเล็กๆได้ในชีวิตประจำวันอย่างง่ายๆ เช่น

1. เปลี่ยนจากการใช้ขวดน้ำพลาสติกมาใช้ขวดน้ำที่ใช้ซ้ำ ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกซึ่งต้องใช้เวลานานในการย่อยสลาย และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อีกด้วย

2. เลือกใช้พลาสติกที่รีไซเคิลได้ และหลีกเลี่ยงพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว เช่น ถุงพลาสติก, หลอดดูด, และอุปกรณ์ทานอาหารที่ใช้ครั้งเดียว สามารถลดปริมาณขยะที่ย่อยสลายยากได้

3. แยกขยะในครัวเรือนเพื่อนำไปสู่การกำจัดบยะในแต่ละประเภทให้ถูกวิธี และไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำขยะจากชุมชนไปสู่การผลิตไฟฟ้าจากขยะ

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็กๆ ในทุกๆวัน สร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ หากทุกคนร่วมกันสร้างทำอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับโลกของเรา

รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 นวัตกรรมยานยนต์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024: นวัตกรรมยานยนต์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles) หรือ EVs เป็นทางเลือกหนึ่งในการเปลี่ยนจากการใช้พลังงานฟอสซิลเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่เพียงแต่ช่วยลดมลพิษทางอากาศ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย
ในปี 2024 รถยนต์ไฟฟ้าได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น ช่วยให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับระยะทางในการเดินทางของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ เทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ยังทำให้การชาร์จไฟเป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
การใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อดีในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่พลังงานสะอาด ส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว
นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปเนื่องจากมีจำนวนชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า ลดความเสี่ยงต่อการสึกหรอและการเสียหาย ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้มากขึ้น อีกทั้ง โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านจำนวนและคุณภาพของสถานีชาร์จไฟฟ้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ
การเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันจึงไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนอนาคตที่ยั่งยืน แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป

ปล่อยให้รั่ว = ปล่อยให้โลกร้อน

ปล่อยให้รั่ว = ปล่อยให้โลกร้อน

การรั่วไหลของน้ำและการแตกของท่อส่งน้ำก่อให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อชีวิตและการพัฒนาในทุกๆ ด้าน น้ำที่รั่วไหลยังนำไปสู่การสูญเสียพลังงานในกระบวนการสูบน้ำและการบำบัดน้ำ การสูญเสียพลังงานนี้มักจะมาจากการใช้พลังงานฟอสซิล ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
นอกจากนี้ การที่น้ำรั่วไหลลงสู่ดินหรือถนนยังสามารถก่อให้เกิดการกัดเซาะและทำลายโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเป็นการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตและการเกษตร การสูญเสียทรัพยากรเหล่านี้ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย
ในด้านสิ่งแวดล้อม การรั่วไหลของน้ำสามารถทำให้ระบบนิเวศเสื่อมโทรม พืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำรั่วไหลอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำ ซึ่งสามารถทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง นอกจากนี้ การรั่วไหลของน้ำยังสามารถพัดพาสารเคมีหรือสิ่งสกปรกเข้าสู่ระบบน้ำ ทำให้เกิดการปนเปื้อนที่มีผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตและคุณภาพของน้ำ
ปัญหาน้ำรั่วและท่อแตกเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่เพียงแต่เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากรน้ำและพลังงาน แต่ยังเพื่อช่วยลดผลกระทบที่มีต่อภาวะโลกร้อน การป้องกันและการแก้ไขปัญหาน้ำรั่วอย่างเป็นระบบไม่เพียงแต่ช่วยให้เราสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อไป

สร้างพื้นที่สีเขียวให้โลกเริ่มได้ง่ายๆ จากตัวเรา

สร้างพื้นที่สีเขียวให้โลกเริ่มได้ง่ายๆ จากตัวเรา

การปลูกต้นไม้และการสร้างพื้นที่สีเขียวเป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีประสิทธิภาพที่สุด ต้นไม้ไม่เพียงแต่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ แต่ยังช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราน่าอยู่มากขึ้น 
การปลูกต้นไม้ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตของเรา การที่ต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ช่วยลดภาวะโลกร้อนโดยตรง และยังปล่อยออกซิเจนซึ่งเป็นอากาศที่เราจำเป็นต้องใช้ในการหายใจ การสร้างพื้นที่สีเขียวยังช่วยลดอุณหภูมิในเมือง ทำให้มีอากาศที่สดชื่นและเย็นสบายมากขึ้น

นอกจากนี้ การปลูกต้นไม้ยังช่วยสร้างที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ป่าและช่วยป้องกันการกัดเซาะของดิน เมื่อเราช่วยกันปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่บ้าน สวนสาธารณะ หรือที่ทำงาน ก็สามารถเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับคาร์บอนได้เช่นกัน

การเริ่มต้นจากตัวเราไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เราสามารถเริ่มจากการปลูกต้นไม้ในสวนหลังบ้านหรือเข้าร่วมโครงการปลูกป่า การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศของพื้นที่จะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้ การสนับสนุนกิจกรรมปลูกต้นไม้ในโรงเรียนหรือองค์กรท้องถิ่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในระดับชุมชน
การปลูกต้นไม้และสร้างพื้นที่สีเขียวเป็นการสร้างอนาคตของโลกใบนี้สำหรับคนรุ่นต่อไปที่ลงทุนน้อยที่สุดทำได้ง่ายที่สุด และลงมือทำได้ทุกคน…เริ่มเลยตั้งแต่วันนี้

ปลั๊กหลุด โลกหยุดร้อน เริ่มต้นที่ตัวเรา!

ปลั๊กหลุด โลกหยุดร้อน: เริ่มต้นที่ตัวเรา!

การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งานอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง มันสามารถมีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของเราได้เลยทีเดียว

หลายครั้งที่เราลืมหรือไม่คิดที่จะถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังจากใช้งานเสร็จแล้วนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างยังคงใช้พลังงานแม้ว่าเราจะปิดสวิตช์แล้วก็ตาม ซึ่งเรียกว่า “พลังงานแฝง” หรือ “พลังงานผี” (phantom power) ที่สูญเสียไปโดยไม่จำเป็น

การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังการใช้งานช่วยลดการใช้พลังงานแฝงนี้ได้อย่างมาก การประหยัดพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงแค่ช่วยลดค่าไฟฟ้าสำหรับครัวเรือน แต่ยังช่วยลดความต้องการในการผลิตพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ยกตัวอย่างเช่น การถอดปลั๊กเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือ, ทีวี, หรือเครื่องชงกาแฟหลังใช้งาน สามารถช่วยลดการใช้พลังงานในบ้านได้มากขึ้นหากทำเป็นประจำ นอกจากนี้ การใช้ปลั๊กไฟที่มีสวิตช์เปิด-ปิดก็สามารถช่วยในการจัดการการใช้พลังงานได้ง่ายขึ้น

นอกจากการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว เรายังสามารถส่งเสริมการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพพลังงานสูง (Energy Star) เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานในระยะยาว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ นี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างโลกที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

รีดครบในครั้งเดียว ลดโลกร้อน อย่างมีความหมาย

รีดครบในครั้งเดียว ลดโลกร้อน อย่างมีความหมาย

การประหยัดพลังงานเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน หรือการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งในทุกกิจกรรมเหล่านี้ก็มีการรีดผ้าที่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการให้ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรีดผ้าครั้งละมากๆ แทนการรีดทีละตัว ไม่เพียงช่วยประหยัดไฟฟ้า แต่ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนที่เรากำลังเผชิญหน้า
การรีดผ้าเป็นหนึ่งในกิจกรรมในบ้านที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก เพราะเตารีดต้องใช้เวลาทำความร้อนเพื่อรีดผ้าให้เรียบ เมื่อเรารีดผ้าทีละตัวบ่อยครั้ง เตารีดจะต้องทำความร้อนใหม่ทุกครั้งที่ใช้งาน ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรีดผ้า เช่น การสะสมผ้าให้มากพอก่อนแล้วค่อยรีดครั้งเดียว สามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมาก เมื่อเตารีดถูกเปิดใช้งานเพียงครั้งเดียวในการรีดผ้าหลายๆ ชิ้น จะช่วยลดเวลาที่เตารีดต้องทำความร้อนบ่อยๆ และทำให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ การรีดผ้าครั้งละมากๆ ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเผลอลืมปิดเตารีดเมื่อรีดเสร็จ ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน และช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาในการรีดผ้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้การรีดผ้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การรีดผ้าครั้งละมากๆ ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้าน และช่วยให้เรามีเวลาว่างมากขึ้นสำหรับกิจกรรมอื่นๆ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้เป็นเรื่องที่ง่ายและสามารถทำได้ทันทีในชีวิตประจำวันช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมดีต่อโลกสามารถเริ่มต้นจากตัวเราได้ง่ายๆเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาโลกร้อนด้วยมือของเรา

เซฟป่า รักษาสัตว์ ลดโลกร้อน มาทำให้โลกดีขึ้นกันเถอะ!

เซฟป่า รักษาสัตว์ ลดโลกร้อน

ป่าไม้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากการบุกรุกทำลายอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจากการกระทำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้สัตว์ป่าไร้ที่อยู่อาศัย แต่ยังส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนอย่างรวดเร็ว

การรักษาป่าไม้ให้คงอยู่ไม่ใช่แค่การปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญอย่างยิ่ง สัตว์ป่าจะสูญเสียที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร ทำให้สมดุลของธรรมชาติถูกทำลาย และส่งผลต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์บางชนิด อีกทั้งต้นไม้เป็นตัวดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกหลักที่ทำให้โลกร้อน นอกจากนี้ ป่าไม้ยังช่วยรักษาระดับความชื้นในอากาศ ป้องกันการเกิดภัยแล้ง และช่วยรักษาวงจรน้ำในธรรมชาติ 

การปกป้องป่าไม้และหยุดการบุกรุกเป็นภารกิจสำคัญที่จะช่วยรักษาสมดุลของสิ่งมีชิวิตที่มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ การปกป้องถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและสามารถลดปัญกาภาวะโลกร้อน การร่วมมือกันในการอนุรักษ์ป่าไม้และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและให้ความสำคัญ เพื่อฟื้นฟูและรักษาโลกสำหรับคนรุ่นต่อไป การรักษาป่าไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องสัตว์ป่า แต่ยังเป็นการรักษาชีวิตมนุษย์และอนาคตของโลกใบนี้อีกด้วย

ส่งต่อสิ่งของ แบ่งปันความสุข ช่วยลดโลกร้อน

ส่งต่อสิ่งของ แบ่งปันความสุข ช่วยลดโลกร้อน

การหันมามองวิธีการที่จะช่วยลดโลกร้อนไม่ได้มีแค่การลดการใช้พลังงาน แต่ยังรวมถึงการจัดการกับขยะและสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วอีกด้วย

การส่งต่อเสื้อผ้าและสิ่งของที่เราไม่ต้องการไปยังผู้ที่ต้องการ เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถสร้างความสุขให้กับผู้คนและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบ แต่ยังช่วยลดการผลิตสินค้าที่ต้องใช้ทรัพยากรและพลังงานมหาศาล

การส่งต่อเสื้อผ้าให้แก่ผู้ที่ต้องการ เช่น การบริจาคให้แก่สถานสงเคราะห์ โรงเรียนที่ขาดแคลน หรือชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นการช่วยสร้างความสุขและความอบอุ่นในสังคม การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้เห็นคุณค่าของการแบ่งปัน แต่ยังเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

การลดการผลิตสินค้าผ่านการรีไซเคิลและการใช้ซ้ำช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิต การขนส่ง และการกำจัดขยะ

การส่งต่อสิ่งของยังช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำและพลังงานที่ใช้ในการผลิตเสื้อผ้าใหม่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงเล็กน้อยนี้ยังเป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และลดภาระต่อโลกใบนี้ ทุกคนสามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ ที่บ้านของตัวเอง และร่วมกันสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป

บินง่ายๆ ไม่ใช้กระดาษ “ตั๋ว e-ticket” ทางเลือกเพื่อโลก

บินง่ายๆ ไม่ใช้กระดาษ “ตั๋ว e-ticket” ทางเลือกเพื่อโลก

การใช้ตั๋วเครื่องบินอิเล็กทรอนิกส์แทนการพิมพ์ออกมา นอกจากช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร ยังมีส่วนช่วยลดการใช้กระดาษและสร้างผลกระทบที่ดีต่อโลกเราด้วย

การใช้ตั๋วเครื่องบินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-ticket กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลทั้งหมดในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เราใช้งานอยู่แล้ว เช่น โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต ไม่ต้องพกพาเอกสารมากมายเวลาขึ้นเครื่อง สะดวกและประหยัดพลังงาน ลดกระบวนการผลิตกระดาษและปริมาณขยะจากกระดาษ

การลดการใช้กระดาษมีส่วนช่วยลดการตัดต้นไม้ที่เป็นแหล่งผลิตกระดาษ โดยทั่วไปแล้ว กระดาษที่ใช้ในการพิมพ์ตั๋วมักจะถูกทิ้งหลังจากการใช้งานเพียงครั้งเดียว การเปลี่ยนมาใช้ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยลดปริมาณขยะกระดาษที่ถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกระบวนการผลิตกระดาษ

นอกจากนี้ การใช้ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ยังสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 

ถ่านชาร์จ ใช้ซ้ำได้ง่าย รักษ์โลกได้เยอะ

ถ่านชาร์จ ใช้ซ้ำได้ง่าย รักษ์โลกได้เยอะ

การใช้ถ่านชาร์จเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากสะดวกสบายและประหยัด ถ่านชาร์จไม่เพียงแต่ลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในกระบวนการผลิตถ่านแบบใช้แล้วทิ้ง เมื่อเราหันมาใช้ถ่านชาร์จ เรากำลังมีส่วนร่วมในการปกป้องโลกให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น

การผลิตถ่านแบบใช้แล้วทิ้งต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติในปริมาณมาก และในกระบวนการผลิตนั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในปริมาณที่มาก การเลือกใช้ถ่านชาร์จยังเป็นการสนับสนุนแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ถ่านชาร์จยังมีความสะดวกสบายในเรื่องการพกพาและการชาร์จไฟ เพียงแค่มีเครื่องชาร์จและปลั๊กไฟ คุณก็สามารถชาร์จถ่านกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง นอกจากนี้ การใช้ถ่านชาร์จยังช่วยลดการผลิตถ่านแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งมีสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหากไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกต้อง และลดการใช้พลังงานในการผลิตได้

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ถ่านเป็นถ่านชาร์จไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการรักษาโลกใบนี้ด้วยการเลือกใช้พลังงานที่ใช้ซ้ำได้

พักเที่ยง พักคอม ปิดเครื่องตอนพักเที่ยงช่วยโลกได้นะขอบอก

พักเที่ยง พักคอม ปิดเครื่องตอนพักเที่ยงช่วยโลกได้นะขอบอก

การใช้คอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องนั้นต้องใช้พลังงานมาก ซึ่งส่งผลกระทบทำให้โลกร้อนโดยไม่รู้ตัว การปิดเครื่องในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น เวลาพักเที่ยง ไม่เพียงช่วยลดการใช้พลังงาน แต่ยังมีส่วนช่วยในการลดโลกร้อนด้วย

หลายคนอาจคิดว่าการเปิดคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปทิ้งไว้ในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างช่วงพักเที่ยงนั้นไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ในความเป็นจริง การเปิดเครื่องทิ้งไว้ยังคงใช้พลังงานอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้งาน

การปิดเครื่องช่วงเวลาพักเที่ยงนอกจากช่วยประหยัดพลังงานแล้วยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์อีกด้วย และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้า

การลดการใช้พลังงานในออฟฟิศหรือที่บ้านเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ง่ายและส่งผลต่อการลดโลกร้อนในระยะยาว

การปิดคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปในช่วงเวลาพักเที่ยงเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ทำได้ทุกวัน ลงมือทำได้ทันที และมีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและลดโลกร้อน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงเล็กน้อยนี้สามารถสร้างช่วยโลกของเราจากปัญหาวิกฤติโลกร้อนได้ รออะไรล่ะ…ปิดคอมแล้วออกไปทานข้าวกลางวันกันเลย

solar charger เสาชาร์จโทรศัพท์จากพลังงานแสงอาทิตย์ Hope Spot

Solar Charger เสาชาร์จโทรศัพท์จากพลังงานแสงอาทิตย์

ที่ HOPE SPOT ภูมิใจนำเสนอ

ที่งาน Hope Spot Charity Event & Concert ทั้ง 3 ครั้งของเรา มีสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เสาชาร์จโทรศัพท์พลังงานแสงอาทิตย์!
ลองนึกภาพเสาสีขาวสะอาดที่มีแผงโซลาร์เซลล์ติดอยู่ด้านบน คอยรับแสงแดดเพื่อเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าสำหรับชาร์จโทรศัพท์ของทุกคน นี่คือการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
เสาชาร์จนี้ไม่ได้เป็นแค่จุดชาร์จไฟ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมการใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ในชีวิตประจำวัน และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนให้กับทุกคนว่า การหันมาใช้พลังงานสะอาดนั้นทำได้ง่ายและมีประโยชน์อย่างมากมาย
ด้วยการตั้งเสาชาร์จนี้ในงาน เราหวังว่าทุกคนจะได้รับแรงบันดาลใจในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองด้วยค่ะ! 🌞📱

ท่องโลกแบบไม่ทำลาย เทคนิคเที่ยวเก๋ไก๋แบบ Low Carbon

ท่องโลกแบบไม่ทำลาย เทคนิคเที่ยวเก๋ไก๋แบบ Low Carbon

การเที่ยวแบบ Low Carbon กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมและต้องการรักษาโลกของเราให้ยั่งยืน ซึ่งการเที่ยวแบบ Low Carbon ไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน แต่ยังช่วยให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้น
การเดินทางแบบ Low Carbon เน้นการใช้วิธีการที่ไม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงต่างๆมากนัก ดังนั้น นี่คือทริคง่ายๆที่ทำให้การเดินทางของคุณมีผลกระทบต่ำต่อโลก
• พกช้อนส้อมส่วนตัวและกระติกน้ำมาเอง เพื่อลดการใช้วัสดุที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง
• ใช้การเดินหรือปั่นจักรยานหากเป็นไปได้ หรือใช้รถสาธารณะที่ใช้พลังงานสะอาดในการเดินทางไกลขึ้น
• อุดหนุนร้านอาหารท้องถิ่น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดระยะทางขนส่งอาหารแต่ยังสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน
• ปฏิบัติตัวให้เป็นนักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบ โดยการทิ้งขยะให้ถูกที่ แยกขยะทิ้งให้ถูกถัง และลดการผลิตขยะ
การเดินทางแบบ Low Carbon เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราได้ท่องเที่ยวอย่างมีสติและรับผิดชอบต่อโลก. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆน้อยๆ ของเรา สามารถสร้างผลที่ยื่งใหญ่ได้ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน
มาช่วยให้โลกของเราเย็นขึ้น. เริ่มต้นจากตัวเรา, เพื่อโลกของเรา!

เก็บตู้เย็นให้เป็นระเบียบ ลด Food Waste เซฟเงินได้จริง

เก็บตู้เย็นให้เป็นระเบียบ ลด Food Waste เซฟเงินได้จริง

การจัดระเบียบตู้เย็นอาจดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความเป็นจริงแล้ว การจัดระเบียบตู้เย็นนั้น มีผลต่อการลดขยะอาหารในบ้านของเราได้ ซึ่งการที่ตู้เย็นของเราเป็นระเบียบจะช่วยให้เราสามารถใช้วัตถุดิบต่างๆอย่างคุ้มค่า และยังช่วยให้คุณประหยัดเงินจากการซื้ออาหารซ้ำๆ ที่ไม่จำเป็นอีกด้วย โดยวันนี้จะมาแชร์วิธีการจัดระเบียบภายในตู้เย็นได้ง่ายๆ ดังนี้

  1. แบ่งโซนตู้เย็นตามประเภทอาหาร: อย่างเช่น โซนเก็บขนมหวาน, เบเกอรี, อาหารที่ปรุงเหลือ, ผัก และผลไม้ ช่วยให้คุณเข้าถึงและจัดการอาหารได้ง่ายขึ้น ป้องกันการลืมเหลือทิ้งของอาหารที่ซื้อมาแล้ว
  2. ใช้กล่องเก็บอาหารแบบใส : เพื่อให้คุณมองเห็นอาหารที่เหลืออยู่ในตู้ได้ชัดเจน ลดโอกาสในการซื้อซ้ำโดยไม่จำเป็น และช่วยให้คุณใช้วัตถุดิบให้หมดก่อนที่จะหมดอายุ
  3. เรียงลำดับตามวันหมดอายุ:เมื่อซื้อของใหม่มาเติม จัดเรียงให้ของใหม่อยู่ด้านใน และของเก่าที่ใกล้หมดอายุไว้ด้านหน้า เพื่อให้คุณใช้ของเก่าก่อน เป็นการช่วยลดการทิ้งอาหารที่ยังดีอยู่
  4. แยกเก็บผักและผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีน: ผักและผลไม้บางชนิดเช่น กล้วย และอะโวคาโด จะปล่อยก๊าซเอทิลีนซึ่งทำให้อาหารอื่นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การแยกเก็บจะช่วยลดปัญหานี้

เห็นไม๊คะว่าการจัดระเบียบตู้เย็นไม่เพียงแต่ช่วยให้ครัวของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการลดขยะอาหาร ช่วยให้เราใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ  มาใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อให้ตู้เย็นของคุณเป็นมากกว่าเพียงที่เก็บอาหาร แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยโลกของเราให้ห่างไกลจากปัญหาขยะอาหาร ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ไปด้วยกัน

FROM TRASH TO TOTE จากขยะไร้ค่า สู่กระเป๋าทะเลเก๋ๆใบเดียวของโลก

FROM TRASH TO TOTE จากขยะไร้ค่า สู่กระเป๋าทะเลเก๋ๆใบเดียวของโลก

ไม่ใช่แค่ FROM TRASH TO TOTE แต่แบรนด์ SOUVENIR FROM THE SEA ยัง DIY ขยะทะเลให้เป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ และสิ่งสำคัญที่เราได้เรียนรู้จากการ Workshop ครั้งนี้คือการจัดการขยะ คัดแยกขยะ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในแง่มุมต่างๆ และสุดท้ายขยะที่ดูไร้ค้าสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์ในรูปแบบของพลังงานสะอาด
“คุณ ณ วิยะดา โค้วศานติ” ศิลปินผู้ก่อตั้งแบรนด์ SFTS เริ่มต้นจากการมอง “ขยะทะเล” ให้มีคุณค่า โดยการเก็บขยะจากชายหาดและจัดการอย่างถูกวิธี เช่น การรีไซเคิลหรือนำไป Upcycle เป็นกระเป๋า Tote เก๋ ๆ ทำให้แบรนด์ SFTS กลายเป็นที่สนใจในต่างประเทศเป็นต้นแบบการจัดการขยะเพื่อต่อสู้ Climate Change
สำหรับขยะที่รีไซเคิลไม่ได้หรือ Upcycle ไม่ได้ “คุณ ณ” จะส่งไปผลิตไฟฟ้าโดยใช้เป็นเชื้อเพลิง (Waste to Energy) ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ลดคาร์บอน และช่วยลดโลกร้อนด้วยพลังงานสะอาด
การเก็บขยะจากชายหาดไม่เพียงทำให้ทะเลสวยงาม น่าเที่ยว แต่ยังป้องกันไม่ให้ขยะกลับลงสู่ท้องทะเลและกลายเป็นไมโครพลาสติก ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลและมนุษย์เองอีกด้วย

From Tree to Sky สวนพฤกษศาสตร์ระยอง

From Tree to Sky สวนพฤกษศาสตร์ระยอง

Hope Spot Sky Charity Event & Concert ซึ่งจัดขึ้น เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ณ สวนพฤกษศาสตร์ระยอง
อ.แกลง จ.ระยอง ตลอดทั้งวัน มีกิจกรรมให้ได้เอ็นจอย กันมากมาย และแน่นอนว่าไฮไลต์ก็คือ คอนเสิร์ตจาก “สินเจริญบราเธอร์ส” และแขกรับเชิญสุดพิเศษ “คุณมารีญา พูนเลิศลาภ” โดยมีการสบทบทุนบริจาคให้ “กองทุนแสงอาทิตย์ Thailand Solar Fund” ด้วย
นอกจากนี้ทุกคนที่เข้ามาร่วมกิจกรรมยังได้เรียนรู้เรื่อง พลังงานสะอาด ผ่านเวิร์คช็อปงานคราฟต์จากขยะ และการใช้ Solar Mobile Charging จุดชาร์จไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงยังได้ทำกิจกรรมเอาท์ดอร์แบบ Low Carbon ที่ทั้งสนุกสนาน ได้ออกกำลังกาย ได้ใกล้ชิด และเป็นมิตรกับธรรมชาติแบบสุดๆ และทุกคนที่ไปร่วมงานนี้ยังสามารถช่วยกันลดคาร์บอนได้จากกิจกรรมที่ทำตลอดทั้งวันอีกด้วย
กิจกรรมปั่นจักรยาน 270 กิโลเมตร – ลดคาร์บอนได้ 54 กิโลกรัมคาร์บอน
กิจกรรมพาย 255 กิโลเมตร – ลดคาร์บอนได้ 51 กิโลกรัมคาร์บอน
กิจกรรมแยกขยะ 26 กิโลกรัม – ลดคาร์บอนได้ = 16.17 กิโลกรัมคาร์บอน
รวมกันแล้ว ชาว Hope Spot ได้ช่วยกัน ลดการปล่อยคาร์บอน
ไปได้ทั้งหมด 121.17 กิโลกรัมคาร์บอน เลยทีเดียว

ปรุงดิน การแปรรูปขยะอินทรีย์ สู่พลังงานสะอาด

ปรุงดิน การแปรรูปขยะอินทรีย์ สู่พลังงานสะอาด

การเดินท่องลำธารเรียนรู้ธรรมชาติของป่าต้นน้ำทำให้เรารู้ว่าธรรมชาติยิ่งใหญ่เพียงใด ธรรมชาติสร้างชีวิตมากมาย ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์ ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวพันกัน หากขาดซึ่งสิ่งใดย่อมส่งผลกระทบกับชีวิตที่เหลือ การเรียนรู้ธรรมชาติทำให้เราเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและรักษาธรรมชาติอย่างยั่งยืน
การนำเศษวัสดุจากธรรมชาติที่ดูไร้ค่ามาสร้างสรรค์ประโยชน์อย่างหลากหลายรูปแบบวิธีการก็เป็นการเรียนการอยู่ร่วมและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ
การเรียนรู้นำขยะอินทรีย์และเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาแปรรูปเปลี่ยนเป็นประโยชน์ทั้งการปรุงดินให้เพิ่มแร่ธาตุและจุลินทรีย์ที่พืชใช้ในการเจริญเติบโต และการนำเศษวัสดุจากพืชธรรมชาติที่ได้นั้นไปสู่กระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ก็ทำให้เราอยู่ร่วมและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของมนุษย์และส่งผลดีต่อโลกในที่สุด

สวนพฤกษศาสตร์ระยอง แหล่งท่องเที่ยว Low Carbon ที่ใส่ใจธรรมชาติ

สวนพฤกษศาสตร์ระยอง: แหล่งท่องเที่ยว Low Carbon ที่ใส่ใจธรรมชาติ

สวนพฤกษศาสตร์ระยองเป็นสถานที่ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและใส่ใจสิ่งแวดล้อม 

เหตุผลที่ทำให้สวนพฤกษศาสตร์ระยองเป็น Low Carbon Destination 

    • ลักษณะพื้นที่เฉพาะตัว มีพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่กว่า 3,870 ไร่
      มีทุ่งหญ้าลอยน้ำ “แพหนังหมา” ขนาดใหญ่ ขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์ “การเดินบนน้ำ” สุดอัศจรรย์ใจ
    • ป่าเสม็ดโบราณ ผืนสุดท้ายของภาคตะวันออก ซึ่งยังคงความสมบูรณ์มายาวนานหลายร้อยปี เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนขนาดใหญ่ ฟอกอากาศให้สะอาด ช่วยลดภาวะเรือนกระจก
      พันธุ์ไม้หลักที่เป็นไฮไลต์ของพื้นที่ ก็คือ ต้นเสม็ดขาว ซึ่งขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ หลายร้อยต้น
    • กิจกรรมท่องเที่ยวแบบ Low-Carbon ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ การพายเรือคายัค และการปั่นจักรยาน ที่ทางสวนฯ เตรียมให้บริการ สายลุยทุกเพศทุกวัย
    • เรือไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เรือนำพาเที่ยว ที่ใช้ “ไฟจากฟ้า” มาเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน พาผู้มาเยือนเข้าไปชมความอุดมสมบูรณ์ของ ธรรมชาติที่นี่อย่างใกล้ชิด โดยไม่ปล่อยคาร์บอน

ที่นี่จึงเป็นตัวอย่างของสถานที่การท่องเที่ยวที่รักษาสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนด้วยความงดงามของธรรมชาติและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

จากขยะทะเลสู่พลังงานสะอาด การจัดการที่สร้างความเปลี่ยนแปลง

จากขยะทะเลสู่พลังงานสะอาด: การจัดการที่สร้างความเปลี่ยนแปลง

ขยะทะเลคือขยะจากเมืองที่รั่วไหลลงสู่ทะเลและมหาสมุทร จำนวนมหาศาล สร้างผลกระทบกับระบบนิเวศน์ทางทะเล อย่างรุนแรง โดยเฉพาะขยะพลาสติก ซึ่งทำร้ายและทำลาย ชีวิตสัตว์ทะเลอย่างโหดร้าย อีกทั้งพลาสติกเหล่านั้น เมื่อกาลเวลาผ่านไป ก็สลายตัวกลายเป็นไมโครพลาสติก สะสมอยู่ในสัตว์ทะเล ที่ถูกจับขึ้นมาเป็นอาหารของมนุษย์ ซ้ำร้าย ขยะทุกชิ้นที่เราสร้างขึ้น อาจจะกลับเข้ามา สู่ร่างกายของเราเอง ผ่านการบริโภคอาหารทะเลในที่สุด การเรียนรู้การจัดการขยะจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากเราแยกขยะในบ้าน ของเราและจัดการอย่างถูวิธี โดยการนำขยะประเภทต่างๆ ไปสู่ ปลายทางที่ถูกต้องเหมาะสม “ขยะ” ก็จะไม่ซ้ำเติมเป็นปัญหา ขยะล้นเมือง และจะเปลี่ยนจาก “สิ่งไร้ค่า” ให้กลับมามีประโยชน์ มีคุณค่าได้อีกครั้ง โดยเฉพาะขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ เมื่อถูกส่งต่อไปสู่ กระบวนการการนำขยะไปเป็นเชื้อเพลิง เพื่อผลิตเป็น ไฟฟ้าพลังงานสะอาด หรือ Waste to Energy ก็จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมไปได้อีกขั้น นอกจากลดปริมาณขยะ ลดมลภาวะทางทะเล และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ก็ยังทำให้เราได้มีพลังงานสะอาดใช้ ทดแทนพลังงานจากฟอสซิล ช่วยปัญหาลดโลกร้อนไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

Workshop ไร่รื่นรมย์ชุมชนต้นแบบของการพึ่งพาตนเอง

Workshop ไร่รื่นรมย์ชุมชนต้นแบบของการพึ่งพาตนเอง

ไร่รื่นรมย์ เป็นพื้นที่ community ที่เปิดประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้คนกลับมาหาความสมดุลระหว่างธรรมชาติและตัวเอง ผ่าน ไร่เกษตรอินทรีย์ผสมผสาน ที่มี ที่พัก ฟาร์มสเตย์ และร้านอาหารสุขภาพ ที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบที่มาจากการทำเกษตรที่ดี และที่นี่ยังเป็นชุมชนต้นแบบของการพึ่งพาตนเองและการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมบูรณ์โดยเฉพาะในเรื่องพลังงาน ไร่รื่นรมณ์เลือกใช้พลังงานสะอาดทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวภาพจากขยะครัวเรือนและมูลแพะ การ Workshop ครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าการนำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ผ่านกระบวนการคิดและการจัดการ ผสมผสานระหว่างมนุษย์และธรรมชาติอย่างกลมกลืน สามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี พึ่งพาตนเองได้ โดยไม่รบกวนธรรมชาติมากเกินไป โดยสามารดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน

แบ่งปันหนังสือ ง่ายๆ ได้ทั้งความสุข ได้ทั้งช่วยโลก

แบ่งปันหนังสือ ง่ายๆ ได้ทั้งความสุข ได้ทั้งช่วยโลก

การอ่านก็ช่วยโลกได้นะ! มาแบ่งปันหนังสือกันดีกว่า ไม่ยากเลย แถมยังได้ความสุขทางใจอีกด้วย!
ในยุคที่โลกร้อนและสิ่งแวดล้อมกำลังเปลี่ยนแปลง การช่วยลดผลกระทบต่อโลกเป็นเรื่องที่เราทุกคนทำได้ การรีไซเคิล หรือการลดใช้พลังงานเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำกัน แต่รู้ไหม? แค่แบ่งปันหนังสือที่เราอ่านจบแล้วให้คนอื่นก็ช่วยโลกได้เหมือนกัน เพราะการผลิตหนังสือใหม่ต้องใช้ทั้งกระดาษ พลังงาน และทรัพยากรอีกเพียบ! แถมการขนส่งยังปล่อยคาร์บอนอีกต่างหาก ลองมาแชร์หนังสือกันดูดีกว่า ทั้งลดการผลิตใหม่ ทั้งช่วยลดขยะ ง่ายๆ แบบนี้ ใครๆ ก็ทำได้ มาดูกันเลยว่ามีวิธีอะไรบ้าง

  • จัดงานแลกเปลี่ยนหนังสือในกลุ่มเพื่อนหรือที่ทำงาน
    ชวนเพื่อนในหมู่บ้าน โรงเรียน หรือที่ทำงานมาแลกหนังสือกันซะเลย ไม่ใช่แค่สนุกนะ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้อ่านหนังสือใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดจะอ่านมาก่อน ไม่ต้องปล่อยให้หนังสือกองท่วมห้องด้วย!
  • บริจาคหนังสือให้ห้องสมุดหรือมูลนิธิ
    ห้องสมุดคือที่ที่ทุกคนเข้าถึงความรู้ได้ ลองบริจาคหนังสือที่คุณไม่ใช่แล้วให้กับห้องสมุดหรือมูลนิธิสิ ช่วยให้คนอื่นๆ ได้อ่านหนังสือดีๆ แถมยังช่วยลดการผลิตหนังสือใหม่อีกด้วย
  • เอาหนังสือไปไว้ที่วัด ใครไปทำบุญบ่อย ลองเอาหนังสือไปวางไว้ที่วัดดูสิ! ให้คนที่ไปวัดได้หยิบอ่าน เหมือนทำบุญแบบได้ประโยชน์สองต่อเลยนะ!
  • อ่าน E-Book กันเถอะ ถ้าอยากลดการใช้กระดาษไปอีก ลองเปลี่ยนมาอ่าน E-Book หรือฟังหนังสือเสียงดูสิ ประหยัดทรัพยากร ไม่ต้องขนส่ง ไม่ต้องเก็บไว้เต็มบ้าน ลดขยะอีกต่างหาก!

เห็นไหม? ง่ายนิดเดียว! มาช่วยกันทำให้โลกเรายั่งยืนขึ้น เริ่มจากการแบ่งปันหนังสือกันเลย!

เริ่มต้นที่ห้องน้ำ: เคล็ดลับประหยัดน้ำง่ายๆ

เริ่มต้นที่ห้องน้ำ: เคล็ดลับประหยัดน้ำง่ายๆ เพื่อความยั่งยืนของโลก

การสร้างความยั่งยืนในชีวิตประจำวันไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เสมอไป เพียงปรับพฤติกรรมเล็กๆ ในบ้านก็ช่วยโลกได้มาก โดยเฉพาะในห้องน้ำ ซึ่งเป็นที่ที่เรามักจะใช้น้ำโดยไม่รู้ตัว มาดูวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้เลย เพื่อช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม

  • ปิดน้ำขณะสระผมหรือฟอกสบู่ เวลาที่เราสระผมหรือฟอกสบู่ เรามักปล่อยให้น้ำไหลทิ้งตลอดเวลา โดยที่จริงแล้วไม่มีความจำเป็นเลย เพียงแค่ปิดน้ำในช่วงที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนสระผมหรือตอนถูสบู่ คุณจะสามารถลดปริมาณน้ำที่ใช้ในแต่ละวันได้อย่างมาก
  • กระชับเวลาอาบน้ำให้สั้นลง การอาบน้ำที่ยาวนานอาจเป็นการผ่อนคลายสำหรับหลายๆ คน แต่ถ้าเราสามารถกระชับเวลาอาบน้ำให้สั้นลงสักหน่อย ก็จะช่วยประหยัดน้ำได้เยอะ ลองตั้งเวลาไว้ทุกครั้งที่อาบน้ำ และพยายามทำให้สั้นลงเรื่อยๆ การลดเวลาอาบน้ำลงแค่ไม่กี่นาทีต่อวัน สามารถลดการใช้น้ำในปริมาณมหาศาลตลอดปี

ผลลัพธ์ที่ได้แค่การปิดน้ำในเวลาที่ไม่ได้ใช้ และการลดเวลาอาบน้ำให้สั้นลง อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีความสำคัญอย่างมาก น้ำเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด การที่เราทุกคนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด จะช่วยลดการสูญเสียทรัพยากรนี้ได้อย่างยั่งยืน ลองเริ่มปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นด้วยกัน นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำแล้ว ยังเป็นการร่วมมือในการสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้อีกด้วย!

ลดขยะกระดาษ ต้อนรับปีใหม่ด้วยของขวัญรักษ์โลก

ลดขยะกระดาษ ต้อนรับปีใหม่ด้วยของขวัญรักษ์โลก

เมื่อพูดถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมจาก Green Style หลายคนอาจต้องตกใจกับสถิติที่ชี้ให้เห็นว่าคนไทยใช้กระดาษมากถึง 60 กิโลกรัมต่อคนในแต่ละปี ทำให้มีขยะกระดาษเกิดขึ้นถึง 3.9 ล้านตันต่อปี ซึ่งถ้านำกระดาษเหล่านี้มาวางเรียงกัน ก็จะครอบคลุมพื้นที่เทียบเท่ากับเกาะภูเก็ตถึง 90 เกาะทีเดียว!

นช่วงโค้งสุดท้ายของปี หลายคนเริ่มมองหาของขวัญจับสลากเพื่อต้อนรับปีใหม่ หากแต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องไม่ลืมว่ากระดาษห่อของขวัญที่ใช้กันนั้นมักกลายเป็นขยะหลังจากถูกฉีกออกในเวลาไม่กี่นาที จะดีไหมถ้าเราหันมาลดขยะจากกระดาษ ด้วยการหยิบของที่มีอยู่แล้วในบ้านมาประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์ของขวัญรักษ์โลก?

การใช้กระดาษห่อของขวัญแบบดั้งเดิมไม่เพียงเพิ่มปริมาณขยะ แต่ยังเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง ลองใช้วิธีใหม่ๆ เช่น การใช้ผ้าห่อของขวัญแบบฟุโรชิกิที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง การใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษที่เหลือจากการใช้งานอื่นมาห่อของขวัญก็เป็นทางเลือกที่ช่วยลดขยะได้ง่ายๆ

ปีใหม่นี้ มาร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ดี ไม่เพียงแค่การมอบของขวัญที่มีความหมาย แต่ยังเป็นการมอบสิ่งดีๆ ให้กับโลกใบนี้ด้วยการลดปริมาณขยะจากกระดาษ!

เลือกดื่มอย่างยั่งยืน: วิธีง่ายๆ ช่วยลดโลกร้อนที่ร้านกาแฟหรือคาเฟ่

เลือกดื่มอย่างยั่งยืน: วิธีง่ายๆ ช่วยลดโลกร้อนที่ร้านกาแฟหรือคาเฟ่

เมื่อเราต้องการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกคาเฟ่ที่ใส่ใจความยั่งยืนก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ หลายร้านกาแฟเริ่มเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น แก้วกระดาษ แก้วรีไซเคิล หลอดกระดาษ หรือหลอดชนิดอื่นที่ลดการใช้พลาสติก การเลือกสนับสนุนร้านเหล่านี้เป็นก้าวเล็กๆ ที่สามารถสร้างผลกระทบที่ดีต่อโลกได้

นอกจากนี้ หากต้องการลดการใช้ทรัพยากรให้มากขึ้น ลองนำแก้วส่วนตัวไปใส่เครื่องดื่มแทนแก้วพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง คุณจะช่วยลดขยะที่เกิดจากพลาสติกและทำให้ทุกแก้วกาแฟของคุณมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

เปลี่ยนวิธีดื่มกาแฟของคุณให้ยั่งยืน ไม่ยากเลย แถมยังดีต่อโลก! มาเริ่มกันเลยทุกคน

เลือกดื่มอย่างยั่งยืน: วิธีง่ายๆ ช่วยลดโลกร้อนที่ร้านกาแฟหรือคาเฟ่

ลดขยะอาหารง่ายๆ ช่วยสิ่งแวดล้อมได้ทุกวัน

เศษอาหารหรือ Food Waste เป็นอีกหนึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มักถูกมองข้าม แต่การสะสมของขยะอาหารส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างปัญหาในการฝังกลบ อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถทำตามเคล็ดลับง่ายๆ เพื่อลดขยะอาหารได้ ดังนี้

  • วางแผนมื้ออาหารล่วงหน้า : เขียนรายการก่อนซื้อของ จะช่วยหลีกเลี่ยงการซื้ออาหารเกินความจำเป็นและลดโอกาสที่อาหารจะเหลือทิ้ง
  • จัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม : การเก็บรักษาผักและผลไม้อย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการเน่าเสีย
  • ใช้ของเหลืออย่างคุ้มค่า : อย่าปล่อยให้ของเหลือเสียเปล่า วางแผนทำเมนูใหม่หรือแช่แข็งไว้ใช้ครั้งหน้า
    ทำปุ๋ยหมัก : เศษอาหารบางอย่างสามารถนำมาหมักเป็นปุ๋ย ช่วยลดขยะและสร้างดินที่อุดมด้วยสารอาหารสำหรับต้นไม้ในบ้าน
  • สนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น : ซื้อผลิตภัณฑ์จากชาวสวนใกล้บ้าน ช่วยลดเศษอาหารจากการขนส่งและสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน\

เชื่อว่าหากทุกคนเริ่มทำตามคำแนะนำเหล่านี้ เราจะสามารถลดขยะอาหารและมีส่วนช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น อย่าลืมว่าแม้การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆเราก็สามารถช่วยลดขยะอาหารและสร้างความแตกต่างให้กับโลกได้!